ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง มันสร้างอิมแพคกับคนดูได้ค่อนข้างมาก เรียกว่าน่าสนใจตั้งแต่เริ่มมีการโปรโมตกันเลยทีเดียว ทางฝั่งฮอลีวูดเองก็มีหนังที่สร้างจากเรื่องจริงกันอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งในปี 2015 มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยคือ American Sniper หนังที่ถูกพูดถึงมากๆทั้งในเรื่องจริงและตัวหนัง ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเลยสักสาขา แต่กับรางวัลออสการ์นั้นเข้าชิงไปถึง 6 สาขาด้วยกันแถมได้รางวัลติดมือกลับบ้านกันอีก 1 สาขาด้วยAmerican Sniper เป็นเรื่องราวของวีรบุรุษสงครามคนหนึ่งของอเมริกาที่ชื่อว่า คริส ไคล์ เขาเป็นมือสไนเปอร์ระดับตำนานที่สังหารศัตรูได้มากที่สุด ว่ากันว่าสถิติคือ 160 ศพ(แต่ในความเป็นจริงน่าจะมากกว่านั้น) คริสอาศัยและเติบโตมาจากเมืองเท็กซัส ส่วนการยิงปืนนั้นพ่อของคริสเป็นคนสอนมาตั้งแต่เขายังเด็ก ซึ่งนอกจากยิงปืนแล้วพ่อยังสอนให้คริสปกป้องน้องชายคนเดียวของเขารวมถึงผู้อื่นที่อ่อนแอกว่าด้วย เมื่อโตขึ้นทั้งคริสและน้องชายก็เข้าสู่เส้นทางการรับใช้ชาติ แต่ก่อนไปคริสแต่งงานแล้วเรียบร้อย ฝีมือการยิงที่เฉียบขาดของคริสนั้นทำให้ทุกเป้าที่เขาทำได้มีความหมายกับชีวิตเพื่อนร่วมชาติมาก เขาช่วยเหลือทหารจากชาติเดียวกันได้เป็นจำนวนมาก คนอื่นในกองต่างยกย่องให้เขาเป็น “Legend” อย่างไรก็ตามเขาเองก็ถูกหมายหัวจากฝั่งศัตรูเช่นเดียวกัน มหารหลายคนเมื่อเผชิญกับความรุนแรงในสงคราม เมื่ออยู่นอกสนามรบ อาจะมีอาการ PTSD ได้ (PTSD คือ สภาวะป่วยทางจิตใจหลังเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรง) คริสเองก็หนีจากอาการนี้ไม่พ้นเช่นเดียวกัน สภาะทางจิตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและชีวิตครอบครัวเป็นอย่างมาก ทำให้เขามีปัญหากับภรรยาบ่อยครั้ง จนภรรยาไม่อยากให้กลับไปทำงาน แต่คริสก็ยังกลับไปรบอยู่ดี โดยเข้าร่วมรบทั้งหมด 4 ครั้งหลังจากนั้นก็วางมือแล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัว ซึ่งถึงแม้จะวางมือแล้วเขาเองก็ยังคอยช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันที่ต้องเผชิญกับอาการ PTSD เหมือนกันกับเขาเพื่อหวังว่าพวกเขาจะดีขึ้น เหมือนกับคริสที่ก็ดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตปกติได้
โดยปกติแล้วหนังสไตล์นี้มักจะมาในแบบที่ “อวยอเมริกา” คือยกย่องเชิดชูคนของตัวเอง แล้วทำภาพลักษณ์ให้อีกฝ่ายเป็นผู้ร้าย แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาแบบโอเวอร์ขนาดนั้น ถึงแม้จะมีการนำเสนอในเรื่องความสำเร็จของการรบ แต่ก็มีการเสนอแง่มุมในลักษณะ “ผู้ที่กำลังอยู่ในสงคราม” กับ “คนที่รอยคอยอยู่ที่บ้าน” ให้ผู้ชมได้เข้าใจด้วย ถึงตลอดการดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ แม้ว่าคริสจะถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ แต่สีหน้าและแววตาของเขาก็ไม่ได้มีความสุขเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ต้องปลิดชีพเด็กหรือผู้หญิงที่มีอายุเท่าๆกับลูกเมียของเขา เพราะจริงๆแล้วในสายตาคนอเมริกัน คริวเป็นฮีโร่ แต่ถ้ามองในมุมศัตรู คริสก็ไม่ต่างอะไรจากซาตานร้ายเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามคริสไม่ได้หมกหมุ่นสนใจเรื่องจำนวนศัตรูที่เขากำจัดได้ แต่เขาสนใจจำนวนผู้คนที่เขาสามารถช่วยเหลือได้มากกว่า หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังสงครามอีกเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวได้ค่อนข้างเข้าถึงง่ายและเข้าใจมุมมองทหารในสงครามมากขึ้น
(คริส ไคล์ เสียชีวิตในปี 2013 เนื่องจากถูกยิงเสียชีวิตจากฝีมือเพื่อนทหารที่มีอาการ PTSD เหมือนกันกับที่คริสเคยเป็น เพื่อนคนนี้คริสเป็นคนยื่นมือไปช่วยเหลือเพื่อบำบัดสภาวะทางจิตดังกล่าว ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้มีเพื่อนทหารอีกคนที่ไปด้วยกันโดยยิงเสียชีวิตเช่นเดียวกัน)

ดูตัวอย่างหนังออนไลน์