หนังสงครามเป็นอีกหนังที่มีให้เลือกชมมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่วางตัวค่อนข้างเป็นกลาง คือไม่อวยหรือตัดสินไปอย่างชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ไม่ยัดเยียดหรือสร้างเรื่องราวดราม่าโดยไม่จำเป็น รวมทั้งถ่ายทอดหลายๆอย่างออกมาได้ดีและสมจริง ใครที่อยากดูหนังสงครามแนวนี้ มาลองดู The Hurt Locker กันค่ะ
The Hurt Locker คือเรื่องราวของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดอย่าง วิลเลียม โจนส์ จากทีมกู้ระเบิดของกองทัพสหรัฐฯที่ต้องมาปฏิบัติในประเทศอัฟกานิสถาน ประเทศที่เต็มไปด้วยระเบิดและกระสุนปืน ประเทศที่ทุกนาทีของนาทีของชีวิตเหมือนกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ในปี 2008 มีหนังทำเงินฟอร์มยักษ์อย่างอวตารเข้าร่วมชิงรางวัลด้วย หลังจากที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดฤดูกาล The Hurt Locker ก็เฉือนเอาชนะคู่แข่งมาได้แถมกวาดรางวัลไปถึง 6 สาขาด้วยกัน…เชื่อว่าหลายดูแล้วอาจจะคิดว่าหนังเรื่องนี้มีจุดเด่นตรงไหน ทำไมถึงได้รางวัลออสการ์? The Hurt Locker เป็นหนังที่ถ่ายทอดอารมณ์และสภาวะความเคร่งเครียดที่เหล่าทหารต้องเผชิญขณะปฏิบัติหน้าที่ในสงครามได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นการต้องนอนรอเหตุการณ์สงบหลังปะทะกับผู้ร้ายเพื่อตรวจสอบว่ามันไม่มีศัตรูหลงเหลืออยู่แล้วจริงๆ ก็สะท้อนภาพที่ทหารต้องเจอได้อย่างชัดเจน ใครที่เป็นทหารดูแล้วน่าจะอินมากเลยทีเดียว ที่ถ่ายทอดออกมาได้สมจริงขนาดนี้เพราะทางผู้เขียนบทได้ไปร่วมสังเกตการณ์กับหน่วยเก็บกู้ระเบิดในอิรักถึง 2 สัปดาห์เต็ม เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่หาดูไม่ได้จากที่อื่นเลย (แต่ใครที่ชอบหนังแบบระเบิดตู้มต้าม ยิงกันมันส์กระจาย อาจจะไม่ชอบเท่าไรนัก เพราะอารมณ์ของหนังและพัฒนาการของตัวละครค่อนข้างราบเรียบ เหมือนสารคดีมากกว่าหนังเสียอีก)
ตลอดทั้งเรื่องหนังทำให้ผู้ชมร่วมลุ้นกับตัวละครว่าจะรอดชีวิตไปจากการปฏิบัติภารกิจหรือไม่? ร่วมนับวันและเอาใจช่วยให้ได้กลับบ้าน แต่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจผู้ชมน่าจะสังเกตเห็นได้แล้วว่าพระเอกของเรามีนิสัยค่อนข้างห่ามและชอบเสี่ยง เมื่อจบภารกิจเขาก็ได้กลับบ้านไปอยู่กับลูกและภรรยา แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับมาทำปฏิบัติภารกิจในสงครามอีกครั้ง…มาถึงตอนนี้ผู้ชมหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมพระเอกจึงตัดสินใจอย่างนั้น อยากให้ลองพิจารณาดูจากฉากที่เขาคุยกับลูกที่ยังพูดไม่รู้เรื่องและฉากที่พระเอกต้องทำสิ่งง่ายๆอย่างการไปซื้อซีเรียลให้ลูกแล้วยืนงงอยู่ตรงหน้าชั้นวางของทั้งที่เคยเจอเรื่องยากๆมามากมาย ฉากเหล่านี้สื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง ความตื่นเต้ในสงครามเหมือนกลายเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตไปแล้วและเขารักมัน อาจจะถึงขั้นเสพติเลยก็ว่าได้ และนั่นก็น่าจะเป็นคำตอบว่าทำไมเขาถึงกลับไปเริ่มทำภารกิจใหม่อีกครั้ง
ตัวอย่างหนังออนไลน์
